Learning Style Preferences

ในบทความนี้จะอธิบายถึงหนึ่งในทฤษฎีการเรียนรู้ที่โด่งดังมาก ซึ่งมีชื่อว่า Learning Style Preferences ที่จะทำให้เราเข้าใจในวิธีการเรียนของตัวเอง และสามารถปรับปรุงพัฒนาวิธีการเรียน การอ่านหนังสือให้ดีที่สุดกับตัวเองได้

Learning Style Preferences หมายถึงวิธีในการเรียนรู้สิ่งใหม่ของแต่ละคน ซึ่งพบว่าในคนทั่วไปจะมีอยู่สี่รูปแบบ ที่จำง่ายๆว่า VARK ซึ่งประกอบไปด้วย Visual(ภาพ) Aural(การได้ยิน) Reading(การอ่าน) และ Kinesthetic(การลงมือทำ) การทราบ Learning Preferences ของตนเองจะทำให้เรียนรู้ได้อย่างตรงจริตของตนเอง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Visual People กลุ่มคนที่นิยมเรียนจากภาพ สี รูปร่าง flowchart ชอบหนังสือที่มีตารางหรือ รูปภาพ ต้องเห็นภาพรวมเนื้อหาก่อนเริ่มเรียน และชอบที่จะอธิบายให้คนอื่นด้วยภาพ วิธีพัฒนาศักยภาพคือ จด note ด้วยสีหลายสี ใช้กระดาษแผ่นใหญ่ในการจด จดโดยการวาดภาพ หรือทำตาราง ใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนตัวอักษร

Aural People กลุ่มคนที่นิยมเรียนจากการฟัง มักจะไม่เขียนขณะฟัง บางครั้งก็มีขยับปากขณะ อ่าน และชอบที่จะอภิปรายกลุ่ม วิธีพัฒนาศักยภาพคือ นั่งด้านหน้าห้องเรียนเพื่อให้ฟังเสียงได้ชัดเจน ใช้เครื่องบันทึกเสียง อ่านหนังสือออกเสียง จดจำข้อมูลในรูปของเพลง อธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้คนอื่นฟัง เรียนผ่านการอภิปรายกลุ่ม

Reading People กลุ่มคนที่นิยมเรียนจากการอ่านตัวอักษร เก่งในคำศัพท์ต่าง ๆ และจดจำได้ดีชอบข้อมูลที่มีตัวหนังสือมาก ๆ และชอบที่จะใช้พจนานุกรมหรือคู่มือการทำงาน วิธีพัฒนาศักยภาพคือ จดเนื้อหาด้วยภาษาของตัวเอง เรียนในห้องสมุด ใช้การอภิปรายเนื้อหาผ่าน message board เปลี่ยนภาพ แผนภูมิให้เป็นตัวหนังสือ

Kinesthetic Learners ชอบที่จะเรียนผ่านการลงมือทำ ชอบสัมผัสประสบการณ์จริง เรียนรู้ ผ่านการลองผิดลองถูก ใช้มือจิ้มตัวอักษรขณะอ่านหนังสือ ยากที่จะคิดบางอย่างที่เหนือจินตนาการมาก ๆ วิธีพัฒนาศักยภาพคือ เรียนผ่านการฝึกลงมือทำ เช่น ทำการทดลอง จินตนาการถึงสถานการณ์ต่างๆที่ต้องลงมือทำ

สิ่งสำคัญคือต้องระลึกไว้เสมอว่าแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหลายๆ คนมีสไตล์การเรียนรู้ที่ผสมผสานกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะลองใช้เทคนิคต่างๆ และค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง บางทีวิธีที่เรากำลังใช้เรียนอยู่อาจจะไม่ตรงกับวิธีการเรียนของสมองเราก็ได้ วิธีทดสอบง่ายๆคือลองสังเกตดูว่าเราเรียนแบบไหนแล้วเข้าใจเนื้อหามากที่สุด หรืออาจลองทำแบบทดสอบดูว่าเราเป็นผู้เรียนแบบไหน หวังว่าน้องๆทุกคนจะสามารถหาวิธีการเรียนที่ดีที่สุดกับตัวเองได้ครับ