POSN The survivor ep.3 by พี่ไผ่

POSN The survivor ep. 3 by พี่ไผ่

สวัสดีน้องๆทุกคนครับ ตอนนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายของ POSN the survivor กันแล้วครับ ในตอนนี้พี่จะมาเล่าให้ฟังถึงเทคนิคในการวางแผนการเรียนว่าการเรียนในค่ายควรจะทำอย่างไร ถึงจะเรียนเก่ง ทำข้อสอบได้ และเหนือกว่าทุกคนในค่ายครับ วิธีต่างๆเหล่านี้ไม่ได้ใช้ได้แค่กับ สอวน แต่ยังใช้ในการเรียนรที่โรงเรียนหรือการเรียนพิเศษได้ด้วยครับ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันต่อจากคราวที่แล้วเลย!!

เทคนิคการเรียน มี 4 อย่าง ได้แก่

1. Prereading

2. Note Making

3. Reviewing

4. Self-Testing

1. Prereading คือ การอ่านหนังสือล่วงหน้า โดยอ่าน 10 - 15 นาที ต่อการเรียน 1 ชั่วโมง เพื่อให้เห็น Main idea ของเนื้อหานั้น ๆ และเชื่อมโยงเนื้อหาแต่ละหัวข้อได้

เทคนิคการ Prereading 

- หา Main idea ของเนื้อหาแต่ละหัวข้อ

- รู้ความหมายหรือนิยามของคำสำคัญต่าง ๆ ที่พบในเนื้อหา

- อ่าน 10 - 15 นาที เพราะถ้ามากกว่านั้นจะเป็นการอ่าน น้อยกว่านั้นจะมองไม่เห็นภาพ

สนใจอ่านย่อหน้าแรก ประโยคแรก ตัวอักษรที่ถูกไฮไลต์ รูปภาพ ตาราง แผนภูมิ อภิธาน

ศัพท์ จุดประสงค์ สรุป และต้องเชื่อมโยงเนื้อหาในแต่ละหัวข้อ ***

ประโยชน์ของการ Prereading

1. ทำให้เกิดความสนใจในเนื้อหามากขึ้น 

2. เพิ่มความเร็วในการอ่านทวนหลังเรียน

3. ทำให้เกิดการเรียนแบบ active learning

4. จัดเก็บข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

5. จดเนื้อหาระหว่างเรียน lecture ได้ดีขึ้น

2. Note Making คือ การสกัดเนื้อหาสำคัญมาทำ short note ที่ทำด้วยตัวเอง มีเพียงเนื้อหาสำคัญตามภาษาของตัวเอง และสามารถพกพาไปอ่านได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา

คุณสมบัติของ Note ที่ดี

- มีข้อมูลสำคัญในแต่ละเรื่อง

- จัดเรียงดี เข้าใจง่าย

- มีความน่าสนใจ ทำให้จดจำได้ง่ายขึ้น

- เนื้อหาเพียงพอในการอ่านทบทวน

3. Reviewing คือ การทบทวนช้ำหลาย ๆ รอบกันลืม ทวนจนเกิดการรู้แบบกระจ่าง (Learned by

heart/Overlearned) 

4. Self-Testing คือ การทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนเรื่อย ๆ ว่าตนเองนั้นมีความเข้าใจอยู่ในระดับไหน เช่น การนำ note ที่ทำจากข้อที่ 2 มาปิด เพื่อทดสอบว่าตัวเองบอกรายละเอียดที่ถูกปิดไว้ได้หรือไม่ หรือลองทำแบบฝึกหัด การทดสอบตนเองสำคัญอย่างไร พี่จะมาเล่าให้ฟังครับ

เคยมีงานวิจัยที่ศึกษานักเรียนสองกลุ่มระหว่างเรียนแล้วทบทวนด้วยการอ่านปกติ กับการทวนด้วยการทำโจทย์ แล้วมาทบสอบความรู้หลังจากเรียนหนึ่งสัปดาห์ผลที่ได้ออกมาพบดังนี้

Group 1.   Study Study Study Study ได้คะแนนต่ำสุด

Group 2.   Study Study Study Test ได้คะแนนปานกลาง

Group 3.    Study Test Test Test ได้คะแนนสูงที่สุด

จะเห็นว่าการทบทวนด้วยการทำโจทย์ทำให้ได้คะแนนสูงกว่าเมื่อเทียบกับการทวนด้วยการอ่านเฉยๆครับ สรุปแล้วประโยชน์ของ Selftest คือ การทำ Selftest ซ้ำ ๆ จะช่วยทำให้เกิด long-term memory ดังนั้นจึงควรทำแบบฝึกหัดทบทวน 1-2 ชม ต่อวัน จะดีมากๆครับ

พี่ขอสรุปตารางการอ่านหนังสือที่ perfect มาให้ดังตารางข้างล่างนี้ครับ